วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Samsung Galaxy S II, Nexus ตกกระป๋อง เมื่อเจอ CPU ตัวใหม่บน Windows Phone 8!


Samsung Galaxy S II, Nexus ตกกระป๋อง เมื่อเจอ CPU ตัวใหม่บน Windows Phone 8!

ติดตามข่าว Windows Phone 8 ที่น่าสนใจกับ เฮียณัฐ TechXcite วันนี้มีรายงานจากแหล่งข่าวของ Microsoft บอกว่าบริษัทกำลังทดสอบ CPU Dual-Core กับ Windows Phone 8 ตัวล่าสุดอยู่ครับ แต่อย่าคิดว่าค่ายอื่นเค้าไปหาCPU Quad-Core กันหมดแล้ว แต่ทำไม Microsoft ยังเพิ่งจะพัฒนา CPU Dual-Core อยู่ เพราะว่า CPU Dual-Core ของ Microsoft ตัวนี้ มีความเร็ว เร็วกว่า CPU ที่ใช้อยู่ใน Samsung Galaxy S II ถึง 2 เท่าทีเดียวครับ น่าสนใจใช่มั่ยล้า
CPU Dual-Core ตัวนี้มีชื่อว่า Quadcomm Snapdragon S4 รุ่น MSM8960 ซึ่งทาง Microsoft กำลังนำไปทดสอบ และพัฒนาร่วมกับ Windows Phone เวอร์ชั่นล่าสุด หรือ Windows Phone 8 นั่นเอง ซึ่งถึงแม้จะทำงานแค่ 2 แกน แต่สามารถทำคะแนน Vellamo Benchmark ได้สูงกว่าทั้ง Samsung Galaxy Nexus, Samsung Galaxy S IIและ Motorola Droid RAZR เกิน 2 เท่าเลยทีเดียว ส่วนเจ้า MSM8960 นี้มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Krait สองตัว ที่สามารถประมวลผลได้สูงสุดที่ 1.7GHz ทำงานร่วมกับ GPU Adreno 225 ที่แรงสุดๆ
นอกจากนี้ ทางผู้ให้บริการของสหรัฐอเมริกายังให้ความสนใจกับ Windows Phone ตัวใหม่ ที่ใช้ CPU S4 MSM8960อย่างมาก โดยทางบริษัทเล็งที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Windows Phone ตัวใหม่ที่มาพร้อมกับ Windows Phone 8โค้ดเนม Apollo อีกด้วย

ลองชมคะแนน Benchmark ของ Vellamo เปรียบเทียบการประมวลผลระหว่าง CPU Dual-Core บน WP8 กับสมาร์ทโฟนชื่อดังที่ด้านล่างนี้เลยครับ
source: theverge

Nokia Nokia Windows Phone 8 ต้นแบบโผล่


Nokia Nokia Windows Phone 8 ต้นแบบโผล่
Windows Phone 8 - หลังจากมีข่าวเรื่องที่ว่า Nokia จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 ตัดหน้า iPhone 5ของ Apple ล่าสุดมีการปล่อยภาพของสมาร์ทโฟน WP8 ออกมาว่อนไปทั่วเน็ตโดยเว็บไซต์ WPDang ซึี่งอ้างว่างมันเป็นภาพของเครื่องต้นแบบที่ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะการลงสีเครื่องเป็นสีเหลือง (ไม่ค่อยคุ้นกับการใช้สีนี้สักเท่าไรสำหรับ Nokia) พร้อมด้วยโลโก้ที่อยู่มุมบนขวาของตัวเครื่อง จนดูเหมือนเป็นเครื่องทดสอบที่ใช้งานได้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว
ส่วนอินเตอร์เฟซของสมาร์ทโฟนในภาพ แม้จะไม่มีการเปิดเผยให้เห็นว่าเป็น Windows Phone เวอร์ชันอะไร? แต่มันน่าจะไม่ใช้เวอร์ชันเดิมๆ ที่พบเห็นทั่วไปแน่ๆ โดยเฉพาะการเพิ่มไอคอนขนาดเล็ก (แบ่งขนาดไอคอนเดิมเป็น 4 ส่วน) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่พบได้ใน Windows Phone 7.8 และ Windows Phone 8 อย่างไรก็ตาม โดยรวมดูยากที่จะฟันธงลงไปว่า โอเอสที่รันอยู่นั้นเป็นตัวไหนกันแน่ ก่อนหน้านี้
ทาง ไมโครซอฟท์เคยสาธิตสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 ว่า มันจะมาพร้อมกับดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์ หน้าจอ 720p HD และชิป NFC ในเครื่อง ทั้งหมดนี้คงต้องติดตามกันดูต่อไปว่า สเป็กจะยังคงตามนี้ หรือไม่ และตัวเครื่องจริงๆ จะมีดีไซน์ที่แตกต่างจากภาพที่เห็นนี้มากน้อยแค่ไหน? ทั้งนี้ Nokia มีแผนจะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 ในงาน Nokia World ที่จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 5 - 6 กันยายน ศกนี้ ก่อนหน้า Apple จะเปิดตัว iPhone 5 ที่มีข่าวว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนกันยายนเช่นเดียวกัน

ที่มา : http://hitech.sanook.com

หรือนี่คือ Instagram สำหรับ Windows Phone?


หรือนี่คือ Instagram สำหรับ Windows Phone?

แฟนๆ Windows Phone คงอยากใช้แอพดังอย่าง Instagram ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข่าวใดๆ ว่าจะมาลงแพลตฟอร์มนี้หรือไม่
แต่ในวิดีโอสาธิตความสามารถของจอภาพ PureMotion ของ Nokia Lumia รุ่นล่าสุด กลับมี Live Tile ที่หน้าตาคล้ายกับ Instagram อยู่ด้วย (แสดงจำนวนคอมเมนต์และหัวใจ อยู่มุมขวาบนในวิดีโอช่วงท้ายๆ)
เว็บไซต์ The Verge ยังให้ข้อมูลวงในว่า Instagram เตรียมลง Windows Phone แน่นอน เพียงแต่บริษัทอาจไม่ได้ทำเอง และแนวทางให้ไมโครซอฟท์ทำให้เหมือนกับแอพ Facebook/Twitter บน Windows Phone ก็เป็นได้
ที่มา - The Verge

จับตาทิศทางสมาร์ทโฟน เมื่อ Windows Phones 8 ปรากฏกาย


จับตาทิศทางสมาร์ทโฟน เมื่อ Windows Phones 8 ปรากฏกาย

เมื่อหลายฝ่ายมองว่าทิศทางของมือถือวินโดว์สยังคงมีอนาคต การทำคลอดระบบปฏิบัติการวินโดว์ส โฟน 8 โดยไมโครซอฟท์จึงถูกจับตามองอยู่ในขณะนี้ทันทีที่เปิดตัวไล่เลี่ยกับระบบปฏบัติการ Windows 8 สำหรับคอมพิวเตอร์พีซีและแท็บเล็ตเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 จะเพิ่มขีดความสามารถในการใช้วินโดว์ส โฟน ในแบบที่ผู้ใช้ “แทบไม่รู้สึกแตกต่าง” กับการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 บนเดสก์ท็อปพีซี ซึ่งไฮไลท์ที่ไมโครซอฟท์ได้เกริ่นให้ทราบพอเป็นพิธีก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการคือการปรับปรุงฟีเจอร์ที่เคยเป็นรองให้กลายเป็นฟีเจอร์หลัก และยกระดับฟีเจอร์หลักให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะขึ้น
ยืนยันให้ใช้ IE 10 เพียงหนึ่งเดียว
ใน WP8 ระบบจะติดตั้ง Internet Explorer 10 เวอร์ชั่นใหม่เอี่ยม มี UI เท่าเทียมกับรูปแบบบนพีซี แต่ก็มีข้อจำกัดว่าผู้ใช้อุปกรณ์ WP 8 จะไม่สามารถใช้เบราเซอร์เจ้าอื่นๆ ได้
SmartScreen เสริมคมเพื่อ Cloud computing
ฟีเจอร์ SmartScreen ถูกจัดมาเพื่อภาพลักษณ์ของสมาร์ทโฟนอัจฉริยะและช่วยเสริมแพลทฟอร์มของมีเดียต่างๆ eco-system ที่ดีขึ้นในแง่ของการเชื่อมต่อร่วมกับอุปกรณ์ Windows แพลทฟอร์มอื่นๆ น่าจะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยยืนยันว่าการพัฒนาครั้งนี้จะทำให้วินโดวส์ โฟน ไม่ล้าสมัยและเปลี่ยนมุมมองผู้ใช้ที่หายไปนานให้กลับมาลูบๆ คลำๆ และสนใจที่จะทำความคุ้นเคยอย่างจริงจัง (ก็อยู่ที่การพัฒนาของไมโครซอฟท์เองนั่นแหละว่าจะต่อเนื่องและยึดเอาผู้บริโภคเป็รที่ตั้งมากแค่ไหน)
Start screen เปลี่ยนไปในแบบที่เราจะคุ้นเคยมากขึ้นในอนาคต
เชื่อว่าในขณะนี้หลายๆ คนน่าจะเริ่มทำความคุ้นเคยกับมุมมองกราฟฟิคแบบเมโทรของ WP8 กันบ้างแล้ว โดยเฉพาะหน้าจอแรกเข้าหรือ Start screen ซึ่งผู้ใช้จะสามารถปรับขนาดกล่อง title สี่เหลี่ยมเล็กๆ ใหญ่ๆ ได้ตามต้องการ ผู้ทดสอบส่วนหนึ่งยอมรับว่าการใช้งานค่อนข้างลื่นไหล แม้จะยังไม่คล่องมือนักหากจะลองใช้ multi touchscreen
รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่
ผู้บริโภควงนอกอย่างเราๆ อาจไม่รู้ว่า โนเกียกำลังทำงานอย่างหนักในการเร่งทำคลอดวินโดวส์ โฟนเพื่อให้ทันกับการรองรับ OS Phone 8 และหวังจะให้เป็น “เรือธง” ลำใหม่ของมือถือวินโดวส์ สำหรับการสู้ศึกในแดนหน้ากับไอโฟน และซัมซุง กาแล็กซี เอส 3 โดยแอนดรอยด์ ทว่าคำถามก็บังเกิดให้คิด เมื่อลูกค้าโนเกียที่ตั้งตารอจะใช้ WP8 เป็นอันว่าหมดสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็น Lumia 800 หรือ Lumia 900 เพราะไมโครซอฟท์ยังไม่มีโครงการที่จะอัพเกรด OS ให้กับมือถือใดๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้
ฮาร์ดแวร์ใหม่ที่จะเข้ามารองรับ WP8 คาดว่าจะออกแบบมาให้บรรจุชิพได้หลายคอร์ เพื่อรองรับการใช้งาน multitasking แต่จะต้องมีการประมวลผลที่รวดเร็วและเสถียรกว่า WP7
ในด้านของหน่วยความจุก็เตรียมจะเพิ่ม SD Card มาให้ ซึ่งยังไม่ระบุว่าจะให้ความจุได้มากน้อยเพียงใด และเพื่อให้การรันที่ลื่นไหลเป็นไปแบบเนียนสมบูรณ์แบบ อุปกรณ์ที่ใช้ WP8 ก็จะมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดระดับน้องๆ จอคอมพิวเตอร์คือ 720p
NFC จัดให้มีไม่น้อยหน้าแอนดรอยด์
ฟีเจอร์รับส่งข้อมูลระยะใกล้หรือ NFC ที่แอนดรอยด์กำลังสร้างให้เป็นหนึ่งในจุดขายของซัมซุง Galaxy S III ถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่โตขึ้นอย่างเงียบๆ ในวงการสมาร์ทโฟนยามนี้ ไมโครซอฟท์ก็ไม่พลาดที่จะบรรจุลงไปใน WP8 เช่นกัน ที่สำคัญยังมองการณ์ไกลที่จะใช้เป็นกระเป๋าสตางค์อีเลคทรอนิกส์เพื่อความสะดวกในการชำระเงินผ่านมือถือในอนาคต
ข้อจำกัดชวนคิดก่อนตัดสินใจเลือก WP8
-          ยังไม่รองรับการอัพเกรด OS จาก WP7 (7.5,7.8) ไปเป็น WP8 “ในทันที” สำหรับวินโดว์ส โฟน รุ่นใหม่ๆ อย่าง Nokia Lumia ผู้ใช้งานอาจต้องทำใจที่ต้องได้แค่ UI สวยๆ มาปลอบใจเท่านั้น (ซึ่งไมโครซอฟท์เองก็ไม่ได้แจ้งว่าผู้ใช้จะต้องรอจนถึงเมื่อไหร่)
  Written by : MimeGadget

Windows Phone 8 ย้ำชัดอย่าเสียเงินซื้อ iPhone 5!


โฆษณาใหม่ Windows Phone 8 ย้ำชัดอย่าเสียเงินซื้อ iPhone 5!

iPhone 5 อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite ถือได้ว่าเป็นแคมเปญโฆษณาที่ตรงเป้าและมีจุดประสงค์ชัดเจนเหลือเกินกับคลิปโฆษณาชุดล่าสุดของ Windows Phone 8 ที่บอกกันไปโต้งๆเลยว่าอย่าไปเสียเงินซื้อ iPhone 5 เลยเพราะมันสู้ Windows Phone 8 ไม่ได้จริงๆนะเว้ยเฮ้ย!?


ทั้งนี้ในภาพยนตร์โฆษณาที่ป๋านำมาให้ชมกันตรงนี้จะเป็นเรื่องราวของพิธีกรนามว่า Ben ซึ่งจะพยายามไปชักจูงคนเดินถนนทั่วไปให้หันมาใช้งาน Windows Phone 8 แทนที่ iPhone 5 ซึ่งทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ากำลังรอซื้ออยู่นั่นเอง 
โดยคุณ Ben ก็จะยกเอาข้อดีต่างๆนานาของ Windows Phone 8 ไม่ว่าจะเป็น Live Tiles ใน HTC 8X หรือความสามารถในการถ่ายภาพในที่มืดของ Nokia Lumia 920 มาเป็นจุดขายหลักๆพร้อมทั้งกำชับเป็นมั่นเหมาะว่าอย่าไปซื้อเลย iPhone 5 เสียดายเงิน ก่อนที่จะยกสมาร์ตโฟน Windows Phone 8 ให้กับผู้ที่สนใจรายนั้นไปเลยแบบฟรีๆอีกต่างหาก...ป้าด!!!

ที่มา: iphoneincanada

Windows Phone จะแซง iPhone ในปี?


Windows Phone จะแซง iPhone ในปี?

Windows Phone จะแซง iPhone ในปี?
ในขณะที่หลายคนยังสงสัยในโอกาสของ Windows Phone แต่ล่าสุด บ.วิจัยไอดีซีออกมาฟันธงว่า ไม่เพียงแต่ Windows Phone จะสามารถเอาชนะ BlackBerry ได้แล้ว มันยังจะแซงหน้าอุปกรณ์ iOS (iPhone, iPod Touch และ iPad) ของ Apple และสามารถขึ้นแท่นแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนยอดนิยมอันดับสองของโลกภายในปี 2016 อีกด้วย :O
บริษัทวิจัยดังกล่าวไมได้เปิดเผยแค่ตัวเลขสถิติที่มีการคาดการณ์เท่านั้น แต่ยังให้เหตุผลถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เกินคาดของ Windows Phone ด้วย โดยให้เครดิตของความสำเร็จว่าจะมาจากจุดแข็งของ Nokia ในตลาดเกิดใหม่ทีต้องการสมาร์ทโฟนราคาไม่แพง แต่ตอบโจทย์การใช้งานครบถ้วน ซึ่ง Nokia เป็นแชมป์ยอดขาย Windows Phone ในปัจจุบัน นั่นหมายความว่า มันมีโอกาสที่จะพัฒนาตลาดเกิดใหม่อย่างประทศในแถบเอเชีย ละตินอเมริกา และแอฟริกา ให้หันมาใช้วินโดวส์โฟนภายใต้แบรนด์โนเกียได้ไม่ยากเย็นนัก โดยในขณะที่แอปเปิ้ลกำลังขยายตลาดในจีน และยุโรป แต่มันยังมีตลาดในส่วนอื่นๆ อีก ในขณะเดียวกันการขยายตลาดดังกล่าวของ Apple ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร บ.วิจัยยังมองอีกว่า วินโดวส์โฟนจะเป็นสมาร์ทโฟนที่เจาะเข้าตลาดล่างได้ ในขณะที่ Apple ยังคงส่งมอบ iPhone เครื่องเก่าให้ลูกค้าในราคาที่ถูกลง ไอดีซีเชื่อว่า ลูกค้าจะเลือกของใหม่อย่างวินโดวส์โฟนมากกว่า iPhone ตกรุ่น
นอก จากการขยายส่วนแบ่งตลาดผ่าน Nokia แล้ว วินโดวส์โฟนจะยังได้รับแรงขับเคลื่อนจากโอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง AT&T และ Verizon ตลอดจนกระแส Windows 8 อีกด้วย ซึ่งฐานผู้ใช้พีซีทีรันวินโดวส์ในปัจจุบันสูงถึง 84% ดังนั้น Windows 8 ที่จะเปิดตัว และเข้าไปอยู่ในเครื่องผู้ใช้ด้วยอินเตอร์เฟซ Metro UI ที่คล้ายกันจะช่วยผลักดันให้เกิดการใช้วินโดวส์โฟนมากขึ้น??? ทั้งหมดทั้ง มวลคือปัจจัยที่ทำให้ไอดีซีเชื่อว่า วินโดวส์โฟนจะสามารถแซงหน้า iPhone ได้ภายใน 4 ปี แต่มันดูเหมือนจะมองโลกในแง่ดีเกินไป หรือเปล่า? แต่บริษัทวิจัยยังคงยืนยันความคิดของตนเองว่า ตลาดสมาร์ทโฟนวันนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้วินโดวส์โฟนจะมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้่างน้อยมากในขณะนี้ แต่ก็สามารถขึ้นเป็นอันดับสองได้ เพราะตลาดโดยรวมยังอยู่ในระยะเริ่มต้น มีความอ่อนไหว เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ซึ่งนั่นคือโอกาสที่วินโดวส์โฟนทีจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสองของโลกได้ ว่าแต่...คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ Windows Phone จะสามารถโค่น iPhone ได้ภายในอีกไม่กี่ปีได้ หรือไม่ครับ?

ที่มา :  http://hitech.sanook.com

Windows Phone 8 ตัวแรก


Samsung ATIV S มือถือ Windows Phone 8 ตัวแรก

Samsung ATIV S สมาร์ทโฟนตัวแรกของ Samsung ที่รองรับ Windows Phone 8
[30-สิงหาคม-2555] นับว่าเป็นเซอร์ไพร์สสำหรับวงการมือถือ Windows Phone 8 เลยก็ว่าได้ครับ เพราะคาดกันว่า บริษัทที่น่าจะเปิดตัว Windows Phone 8 เป็นค่ายแรกคือ Nokia แต่กลายเป็นว่า Samsung ขอชิงเปิดตัว Windows Phone 8 ตัดหน้าไปก่อน
โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ มีชื่อว่า Samsung ATIV S ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับ Windows Phone 8 ตัวแรกของ Samsung ครับ ซึ่งมีสเปคที่น่าสนใจ ดังนี้
สเปค Samsung ATIV S
- หน้าจอขนาด 4.8 นิ้วแบบ HD Super AMOLED display 
- ซีพียู Dual-core Qualcomm Krait Processor ความเร็ว 1GHz
- RAM 1GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 3.0 และ NFC
- รันระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB และ 32GB สามารถเพิ่มได้ด้วย microSD card
- แบตเตอรี่ขนาด 2300 mAh
- น้ำหนัก 135 กรัม



สำหรับวันวางจำหน่าย และราคา Samsung ATIV S ยังไม่ระบุครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม : gsmarena.com
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ: techmoblog.com

Windows Phone 7.5 Mango


รีวิว Windows Phone 7.5 Mango ฉบับคนเพิ่งใช้ครั้งแรก

ผู้อ่าน Blognone คงทราบกันดีว่า โนเกียกำลังจะขายมือถือ Lumia ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการทำตลาด Windows Phone อย่างจริงจังครั้งแรกในไทยด้วย (นอกเหนือไปจาก Windows Phone รุ่นแรกที่จับตลาดเฉพาะ early adopter เมื่อปีที่แล้ว)
ตัวแทนของโนเกียส่ง Lumia 710 มาให้ผมรีวิวเรียบร้อย ซึ่งคิดไปคิดมาแล้ว หลายๆ คนน่าจะเป็นแบบเดียวกันกับผม คือเพิ่งเคยใช้ Windows Phone เป็นครั้งแรก และอาจยังนึกภาพไม่ออกว่าการใช้งานจริงๆ มันเป็นอย่างไรบ้าง
ดังนั้นรีวิวชุดนี้จะแยกเป็น 2 ตอนคือ ส่วนของ Windows Phone 7.5 Mango ในตอนนี้ และส่วนของฮาร์ดแวร์ Lumia 710 + ซอฟต์แวร์ของโนเกีย ในตอนหน้านะครับ
หมายเหตุ: เนื่องจาก Windows Phone 7.5 ยังไม่รองรับการจับ ภาพหน้าจอโดยไม่ unlock เครื่อง และเนื่องจากมันเป็นเครื่องขอยืมมา ผมก็ไม่สามารถจับภาพหน้าจอด้วยตัวเองได้ ภาพประกอบในบทความนี้จึงใช้วิธีถ่ายรูปเอา (เว็บเมืองนอกก็ใช้แบบนี้กันเกือบหมด) หรือไม่ก็ใช้ภาพ press image จากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์-โนเกียแทน

เริ่มต้นกับ Windows Phone

Blognone รายงานข่าวเรื่อง Windows Phone กันมาเยอะมากแล้ว คงไม่ต้องเท้าความไปถึงแนวคิดหรือที่มาที่ไปของ Windows Phone และ Metro UI กันอีกแล้ว เราเข้าไปที่การใช้งานจริงกันเลยดีกว่าครับ
การใช้งาน Windows Phone เริ่มจากหน้า lock screen ซึ่งไม่มีอะไรต่างไปจาก lock screen ของระบบปฏิบัติการอื่นๆ มากนัก นั่นคือมีภาพพื้นหลัง นาฬิกา วันที่ และการแจ้งเตือนอื่นๆ เช่น อีเมล นัดหมาย สายที่โทรเข้ามา ฯลฯ
การปลดล็อคหน้าจอทำโดยสไลด์หน้าจอขึ้นไปด้านบน จากนั้นเราจะพบกับหน้าจอ Start ซึ่งประกอบด้วย Live Tiles เรียงกันลงไปในแนวบน-ล่าง
ทุกครั้งที่เรากดปุ่ม Start บนตัวเครื่องมือถือ มันจะพาเรากลับมายังหน้าจอ Live Tiles นี้เสมอ
ที่มุมขวาบนของหน้าจอ Start มีลูกศรชี้ไปทางขวามือ กดแล้วจะเห็นรายการแอพทั้งหมดภายในเครื่อง เรียงลงไปตามแนวบน-ล่างเช่นกัน
สรุปว่าหน้าจอพื้นฐานของ Windows Phone มีเพียงแค่ 2 จอเท่านี้ คือ หน้าจอซ้ายสำหรับแอพที่ใช้บ่อยๆ ก็ปักเป็น Tiles เอาไว้ ส่วนหน้าจอขวาก็เอาไว้เรียกแอพที่นานๆ ใช้ที เราสามารถปาดซ้าย-ขวาเพื่อสลับไปมาระหว่างสองหน้าจอนี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มลูกศรเสมอไป
สำหรับคนที่คุ้นกับระบบปฏิบัติการหน้าจอเยอะๆ แบบ Android อาจรู้สึกแปลกๆ กับหน้าจออันน้อยนิดของ Windows Phone บ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอันใดต่อการใช้งานครับ

Live Tiles

Live Tiles ถือเป็นจุดขายหลักของ Windows Phone เลยก็ว่าได้ แนวคิดของมันเป็นลูกผสมระหว่างไอคอนกับ widget ทำหน้าที่ทั้งเป็นช็อตคัตของแอพ และแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ จากแอพตัวนั้น
ไม่ใช่ Tiles ทุกตัวที่สามารถแสดงข้อมูลได้ บางตัวเป็นแค่ไอคอนเท่านั้น ตัวอย่างเช่น IE หรือ Settings พวกนี้เป็นแค่ไอคอนที่ช่วยให้เราเรียกแอพได้สะดวก
โดยรวมแล้ว Tiles ทำงานตอบโจทย์การใช้งานได้ดี แนวคิดดูแปลกใหม่ แต่ข้อติก็คือการวางหน้าจอ Tiles ของไมโครซอฟท์ยังไม่มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะจากภาพจะเห็นว่าหน้าจอปกติแสดง Tiles ได้ประมาณ 8 อัน (Tiles อันล่างๆ ถูกตัดตกขอบไปสักเล็กน้อยด้วย) ทำให้คนที่มี Tiles แบบแจ้งเตือนเยอะๆ ต้องเลื่อนลงไปดูข้อมูลอยู่บ่อยๆ
ผมคิดว่าถ้าไมโครซอฟท์ปรับหน้าจอ Tiles ให้แต่ละตารางมีขนาดเล็กลง และยัดข้อมูลมาได้สัก 3 คอลัมน์ น่าจะช่วยให้การใช้หน้าจอมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ครับ (แต่ก็ต้องแลกมาด้วยหน้าจอที่ซับซ้อนขึ้นล่ะนะ)
ปัญหาอีกประการหนึ่งของ Windows Phone ที่ไมโครซอฟท์ควรใช้ Tiles ช่วยคือ Windows Phone ไม่มีวิธีเปิด-ปิดฟีเจอร์ที่ใช้บ่อย เช่น Wi-Fi, 3G, Bluetooth, GPS แบบง่ายๆ ต้องเข้าไปยังหน้า Settings เท่านั้น
ปัญหานี้ Android แก้โดยแนบ Toggle Widget มาให้เลย ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก กรณีของ Windows Phone สามารถทำแบบเดียวกันโดยเพิ่ม Tiles สำหรับตั้งค่าพวกนี้มาให้ด้วย แต่ไมโครซอฟท์ก็ยังไม่ทำเรื่องนี้ใน Mango ต้องใช้วิธีโหลดแอพภายนอกมาติดตั้งเอาเอง (ใน Marketplace มีแอพ Cellular Data ที่ไมโครซอฟท์ทำเองให้หนึ่งตัว ถ้าอยากเปิดปิดอย่างอื่นต้องหากันเอง)

App List

หน้าจอรายชื่อแอพนั้นตรงไปตรงมามาก คือมีรายชื่อแอพพร้อมไอคอน แสดงเรียงตามตัวอักษรยาวลงไปเรื่อยๆ เท่าจำนวนแอพที่เราติดตั้งไว้ในเครื่อง
ไมโครซอฟท์คงไม่อยากให้ระบบปฏิบัติการซับซ้อน เลยไม่ให้วิธีจัดกลุ่มรายการแอพใดๆ มาให้เลย ดังนั้นถ้าอยากเรียกแอพแบบรวดเร็วก็ต้องปักหมุดไว้ใน Tiles หรือจะกดปุ่มค้นหาที่มุมซ้ายบน แล้วพิมพ์ชื่อแอพเอาก็ได้
ผมคิดว่าทั้งสองวิธีนี้ยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเต็มที่นัก เพราะบางทีเรานึกชื่อแอพไม่ออก จะพิมพ์หาก็คงใช้ไม่ได้ทุกครั้งไป ส่วนการปักหมุดใน Tiles ก็อย่างที่บอกคือเวลา Tiles เริ่มยาวๆ ก็ต้องเลื่อนหาเยอะอยู่ดี
วิธีการปักหมุดเป็น Tiles ให้เรากดค้างไว้ที่รายชื่อแอพ จะมีคำสั่ง pin to start โผล่ขึ้นมา (ในกรณีที่เป็นแอพที่เราติดตั้งเองผ่าน Marketplace จะมีคำสั่ง rate/review และ uninstall เพิ่มเข้ามาด้วย)

การสลับแอพ

การสลับแอพที่เปิดอยู่ ให้ใช้วิธีกดปุ่ม Back ค้างเอาไว้เพื่อเข้าหน้าจอ multitasking ซึ่งจะแสดง thumbnail ของแอพที่เปิดอยู่ขึ้นมา เลื่อนซ้ายขวาเพื่อสลับไปยังแอพที่ต้องการ (คล้ายกับ webOS แต่ปัดขึ้นเพื่อปิดแอพแบบ webOS ไม่ได้)
การปิดแอพเหมือนกับ Android/iOS คือไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมัน ระบบปฏิบัติการจัดการให้เองทั้งหมดครับ ซึ่งกรณีของ Windows Phone ผมลองแล้วพบว่าจัดการเรื่องประสิทธิภาพได้ค่อนข้างดีกว่า Android มาก เนื่องจากมีแอพเพียงบางตัวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นจะเปิดแอพมากหรือน้อยก็ไม่ค่อยมีผลกับระบบสักเท่าไร
การทำงานของ Windows Phone ลื่นไหลมาก แอนิเมชันสวยงาม ตรงนี้คงไม่กล่าวถึงเยอะ ใครอยากเห็นก็หาวิดีโอหรือของจริงดูกันเองได้ไม่ยาก

Status Bar

Windows Phone ไม่มี status bar ที่แสดงผลค้างเอาไว้ด้านบนของหน้าจอเหมือนกับ Android/iOS และนี่เป็นสิ่งที่น่าหงุดหงิดมากอย่างหนึ่ง
status bar ของ Windows Phone มีด้วยกัน 3 โหมด คือ
  1. ไม่แสดง status bar เลย
  2. แสดงเฉพาะนาฬิกาที่มุมขวาบน
  3. แสดงข้อมูลครบ ทั้งสัญญาณมือถือ ไอคอนต่างๆ และแบตเตอรี่
ปัญหาของ Windows Phone คือรูปแบบของ status bar แตกต่างกันออกไปตามแต่ละหน้าจอครับ เท่าที่ผมสังเกตได้ ถ้าเข้าแอพตระกูล Hub ทั้งหลาย จะไม่แสดง status bar เลย (ไม่เสมอไป) แต่ถ้าเป็นหน้าจอทั่วๆ ไปมักแสดงเฉพาะนาฬิกา
ส่วน status bar แบบเต็ม เราสามารถสั่งให้มันโผล่ขึ้นมาโดยเอานิ้วกดตรงนาฬิกาแล้วปัดลงมา เราจะเห็นข้อมูลสถานะต่างๆ ครบถ้วนอยู่ระยะหนึ่ง แล้วมันปิดกลับไปเป็นแค่นาฬิกาเหมือนเดิม
การทำงานแบบนี้ไม่เวิร์คอย่างแรง เพราะเรามักต้องการรู้ว่าตอนนี้ต่อเน็ตอยู่หรือไม่ สัญญาณ Wi-Fi เป็นอย่างไร แบตใกล้หมดหรือยัง ฯลฯ ซึ่งผมคิดว่าแสดงค้างไว้แบบระบบปฏิบัติการอื่นๆ ดีกว่า และไม่ได้เปลืองที่อะไรมากมายนัก

Notification

สำหรับการแจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ เช่น SMS เข้า, อีเมลใหม่, นัดหมาย ฯลฯ ตามปกติแล้วจะแสดงบน Tiles โดยตรง
แต่ในเหตุการณ์สำคัญบางกรณี เช่น SMS เข้า หรือมีคนแชทมาหาเรา มันจะขึ้นแถบแจ้งเตือนที่ขอบด้านบนของทุกหน้าจอในตอนนั้น ดังภาพ
กดแล้วจะเข้าไปยังหน้าจอของแอพที่แจ้งเตือนเรามาด้วย ไม่ต่างอะไรกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
บทความโดย: http://hitech.sanook.com

Windows Phone 7


Windows Phone 7 กลับมาพร้อมทวงบัลลังก์คืน

จำได้ไหมเอ่ยผมเคยเขียนเรื่องราวของ Windows Phone 7 ไปเมื่อไม่กี่เล่มที่แล้วนี้เอง โดยตอนนั้นผมบอกว่าทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปหมด และ Microsoft กำลังเดินตาม Apple + Google ทุกอย่างนี้เป็นการคาดการณ์ของผมเองก่อนที่มันจะออกจริง ตัว Windows Phone 7 เองนั้นมีกำหนดจะเปิดวันที่ 11 ตุลาคม 2010 ซึ่งผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศในวันงานดูธรรมดามาก เรียกว่าแทบเรียกเสียงฮือฮาอะไรไม่ได้เลยในการ Present เพราะว่าการ Present ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปจากเดิมมากนักนอกจาก UI ที่เปลี่ยนใหม่ แต่พวก Feature ต่างๆ ไม่ได้หนีออกห่าง Android หรือ iPhone มากมายนัก ที่แตกต่างชัดเจนเห็นจะเป็นเรื่อง UI ที่เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดเท่านั้น จนโดน Geek หรือคนในวงการสวดกันไปยับเยินเลยทีเดียว
ให้ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปลายกันยายนที่แล้วผมได้มีโอกาสไปร่วมงาน Blogger ของค่ายมือถือชื่อดังค่ายหนึ่ง จนได้มีโอกาสได้พูดคุยกับคนคนหนึ่งที่ถือว่าเป็นกูรูด้าน Application ของประเทศไทยเลยทีเดียว โดยที่เขาได้บอกกับผมว่า Windows Phone 7 นั้นจะเปลี่ยนแปลงวงการอีกครั้งเหมือนที่ iPhone เคยทำ แต่ไม่ได้เปลี่ยนไปทั้งหมดเหมือน iPhone แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวงการในด้าน UI ต่างหาก ซึ่งผมค่อนข้างเห็นด้วยในแง่ UI ใหม่ที่ล้ำมากและเรียกได้ว่าตอบสนองการใช้งานได้ดีขึ้นถึงแม้ว่าจะดูเรียบๆในหน้าตา แต่การใช้งานนั้นหวือหวาพอสมควรเลยทีเดียว
ในงานเปิดตัว Windows Phone 7 นั้น ทั้ง HTC, Samsung, LG และ Dell ได้แสดงความพร้อมในการโชว์โทรศัพท์มือถือ Windows Phone 7 ของตัวเอง ซึ่งรวมๆแล้ว 9 รุ่น ส่วนรายละเอียดคร่าวๆของ Windows Phone 7 นั้นจะเห็นเลยว่า Microsoft นั้นได้ชูจุดเด่นในเรื่องของ Hub ซึ่งถือเป็นจุดเชื่อมระหว่าง Feature ต่างๆ อย่างเช่น
People Hub ที่จะรวมข้อมูลของคนที่เรารู้จักไว้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรายชื่อบนเครื่อง, Windows Live หรือจะเป็น คนที่เรารู้จัก (เพื่อน) ใน Social Network ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสถานะข้อความที่เพื่อนพิมพ์หาเราจะโชว์รวมอยู่ในนี้ทั้งหมด เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
Picture Hub ซึ่งแสดงทั้งภาพในเครื่องของเราเอง และรวมถึงภาพของเพื่อนเราบน Social Network ทั้งหมดอีกด้วย โดยที่จัดหมวดหมู่ชัดเจนไม่ปนกันจนวุ่นวาย
Music + Video Hub นอกจากมีทั้งเพลง และวีดีโอที่อยู่ในเครื่องแล้ว ยังรวมเข้ากับบริการ Zune โดยตรงสามารถเล่นเพลงผ่านระบบออนไลน์ และใช้บริการใหม่ของ Zune ได้อีกเพียบ
Office Hub จุดเด่นเดิมที่ Microsoft ทำไว้ซึ่งก็คือ การใช้งาน Office ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยที่บน Windows Phone 7 ก็ยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิมแต่ได้มีการเพิ่ม Hub เข้ามาช่วยให้การจัดการทุกอย่างง่ายขึ้น แถมได้เพิ่ม SharePoint ที่สามารถแชร์งานเอกสารทั้งหลาย ไปยังคอมพิวเตอร์ ได้ทันที
Game Hub ในที่สุดมันก็มาจนได้ในเมื่อ Microsoft มีจุดเด่นในเรื่องของ Xbox360 อยู่แล้วก็เลยนำมันจับมาใส่ในโทรศัพท์ซะเลย ในชื่อของ Xbox Live ซึ่งมีหน้าที่หลายอย่างเช่นการรวมสถิติการเล่นเกม, รวมเพื่อนของเราบน Social, แต่งตัวละครเป็น Avatar ของเราได้เอง, เข้าถึงเกมได้อย่างง่ายดาย
Market Hub ก็อย่างที่ทราบกันก็คือว่าเป็นแหล่งรวมของ Application ของ Windows Phone 7 โดยมีทุกอย่าง และตอนนี้ Microsoft ก็เคลมว่าตอนนี้มี Application ประมาณ 1,000 ตัวให้เลือกลงแล้วตอนนี้
ทั้ง 6 Hub จะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั้งนั้น Microsoft ใส่ใจในเรื่องของการแสดงผลเป็นอย่างมาก เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง เรียกได้ว่าเข้าทีเดียวเห็นทั้งหมดไม่ต้องไปแยกโปรแกรมเข้าให้มันยุ่งยาก และไม่ใช่มีแค่นี้ จุดเด่นการใช้งานทั่วไปอื่นๆยังคงมีมาให้ครบ เหมือนกับ OS รุ่นอื่นๆ แต่ก็มีบางอย่างที่ขาดหายไป การที่ไม่มีความสามารถสำคัญอย่าง Internet Tethering แถมไม่มี Cut, Copy, Paste ซึ่งต้องรอปีหน้าถึงจะมี เรียกได้ว่าเรียกเสียงโห่ร้องกันเลยทีเดียวแต่ไม่เป็นไร แค่ความสามารถของมันก็น่าจะชนะใจหลายๆ คนได้แล้ว
หลังจากงานเปิดตัวก็อย่างที่บอกว่าโดนสวดยับเยิน เพราะว่าไม่ได้มีอะไรใหม่ที่จะสามารถฉีกตัวออกจาก OS อื่นๆ ได้อย่างชัดเจน ทำให้ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากนัก แต่ที่จริงแล้วการเปลี่ยน UI ใหม่ทั้งหมด แค่ก็นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่แล้ว ไม่ใช่แค่เปลี่ยนอย่างเดียวมันยังเร็วมากๆ อีกด้วย ด้วยการบังคับของ Microsoft ในเรื่องของ Hardware ระดับสูง ทำให้เครื่องมีความเสถียร และเร็วมาก แต่ก็อาจจะต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงขึ้น
ถึงตอนนี้บ้านเราได้เริ่มมีการขยับตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว โดยได้ฤกษ์ปล่อยข่าวในงาน Commart เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาด้วยการจับมือกันของ 3 บริษัทอย่าง HTC, dtac และ Microsoft ร่วมกันวางจำหน่าย HTC HD7 ในประเทศไทยราวสิ้นเดือนนี้ ซึ่งตอนนี้ทั้ง 3 บริษัทยังไม่ยอมเผยข้อมูลใดๆ ออกมาทั้งนั้น เขียนแต่คำว่า “Coming Soon” เท่านั้น เอาเป็นว่าใครที่สนใจรอดูกันได้ว่าเจ้า Windows Phone 7 ตัวแรกในไทยอย่าง HTC HD7 จะน่าจะประทับใจแค่ไหน เร็วๆ นี้
Windows Phone 7 นั้นมีหลายจุดที่น่าจับตามอง ทั้งเรื่องของความเร็ว เรื่องของหน้าตา UI เรื่องของ Hub เป็นสิ่งที่น่าสนใจและเป็นสิ่งใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่วงการ Smartphone กันเร็วๆ นี้ คอยดูกันว่ามันจะเปลี่ยนโลกของ UI บน Smartphone ได้แค่ไหน
ที่มา : http://blog.whatphone.net

Samsung Focus 2 เป็น Windows Phone LTE เครื่องแรก


Samsung Focus 2 เป็น Windows Phone LTE เครื่องแรก

http://www.e-magazine.info/site/wp-content/uploads/2012/05/120508-32-FocusShead-275x171.jpg
          เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Samsung Focus 2 นับเป็น Windows Phone ตัวที่สามแล้วที่ออกมารันผ่านเครือข่าย 4G LTE ของ AT&T ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ Samsung ที่จะผลิตสมาร์ทโฟนออกมาบนหลากหลายแพล็ตฟอร์ม
Focus 2 นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น ที่ราคาประมาณ $50 เหรียญ (1,500 บาท ติดสัญญา) ที่ตอบโจทย์คนที่อยากลองหันมาใช้ Windows Phone แบบไม่เสี่ยงเจ็บตัวมาก
สเป็กคร่าวๆ ของ Focus 2 คือ หน้าจอ Super AMOLED 4 นิ้ว, กล้องหลัง 5MP ถ่ายวิดีโอ HD 720p และกล้องหน้า VGA ที่พอจะใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นด้านบันเทิง ด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือการทำงาน
Credit By : 7boot